เลือกเต็นท์อย่างไรให้เหมาะกับการทำกิจกรรมต่างๆ

เวลาที่เราไปเดินตลาดนั้นมักจะเห็นการกางเต็นหรือบูธมากมายในการขายสินค้าเคยสงสัยมั๊ยว่าการจัดบูธต่างๆนั้นมีวิธีการจัดอย่างไรบ้าง แต่ละตลาดนั้นแตกต่างกันในการจัดบูธนั้นสิ่งที่ควรมีคือโต๊ะที่ใช้ในการวางสินค้า สิ่งต่อมาที่ต้องมีคือเต็นท์ที่ใช้ในการบังแดดบังฝนซึ่งแต่ละรูปแบบแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของาราคาและรูปลักเต็นท์โค้งมีลักษณะที่เป็นโค้งขึงด้วยผนังผ้าใบเหมาะสำหรับใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆเวลาที่เราไปเลือกตั้งสังเกตุได้ว่าใช้เต้นโค้งเพราะตัวเต้นนั้นมีเพดานที่สูงโปร่งทำให้ระบายอากาศได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่อยู่ใต้เต้นท์แต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใช้ร่วมกับผ้าใบที่มีการเก็บแสงแดดเพราะเวลาที่ใช้ผ้าใบที่มีความร้อนจะถูกส่งลงข้างล่างเราจะสังเกตได้จากเวลาที่เราไปเที่ยวจตุจักรนั้นร้านอาหารบางแห่งนั้นใช้เต็นท์ที่เป็นผ้าใบทำให้เกิดการกักเก็บความร้อนไว้เบื้องล่างผู้ที่นั่งทานอาหารหรือที่อยู่ภายใต้เต็นท์นั้นจะเกิดความร้อนอบอ้าวซึ่งไม่สบายเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่แต่เพียงเต็นโค้งเท่านั้นเวลาที่เราหาร้านเต็นท์ให้เช่านั้นควรสอบถามกับทางผู้ขายว่าต้องการใช้กับกิจกรรมดังกล่าวหรืองานนิทรรศการใดหากมีแบบแปลนในการจัดงานใหญ่ก็สามารถทางผู้ขายดูได้เพราะทางผู้ขายจะมีไอเดียในการจัดวางเต็นท์ นอกจากนั้นเรื่องของขาเต็นท์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากขาเต็นท์ที่ดีต้องมีความแข็งแรงรับน้ำหนักของตัวเต็นท์ได้ ส่วนมากแล้วจะใช้ขาเต็นท์ที่เป็นท่อเหล็กก็จะรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วยสำหรับผู้ที่จัดบูธตามตลาดนั้นสามารถใช้เต็นท์แบบสามเหลี่ยมได้ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่เราไปตลาดเรือบินหรือตลาดรถไฟนั้นจะใช้เป็นเต็นท์หน้าจั่วจะมีรูปร่างลักษณะที่แหลมๆ เต้นแบบนั้นง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและง่ายต่อการตั้งเป็นอย่างมากเวลาที่ติดตั้งสามารถที่จะติดตั้งดวงไฟไว้ด้านบนได้สามารถหาซื้อเต็นท์ได้จากร้านเต็นท์ให้เช่าในการจัดบูธนั้นนอกจากจะตกแต่งในเรื่องของเต็นท์แล้วภายนอกก็ต้องทำให้ดูดีน่าใหลูกค้าเห็นแล้วอยากที่จะเข้าร้านของเราด้วยการหาสิ่งของมาตกแต่งอาจจะเป็นป้ายแขวนไฟหรือตูกตาก็ได้เช่นกันแต่หากเต็นท์ใหญ่ไม่พอก็สามารถหาได้จากร้านเต็นท์ให้เช่าด้วยราคาที่ไม่แพงและมีให้เลือกหลายแบบซึ่งแล้วแต่เนื้อผ้าด้วยประเภทของเนื้อผ้าที่นำมาทำเต็นท์นั้นแตกต่างกันทำให้ราคานั้นต่างกันด้วย